การกำจัดวัชพืช : มอสและตะไคร่มากับความชื้นบนเครื่องปลูก

มอสและตะไคร่มากับความชื้นบนเครื่องปลูก การกำจัดมอสและตะไคร่ที่ขึ้นบนเครื่องปลูก   ผลิตภัณฑ์แนะนำ แคปแทน 50 แคปแทน 50 (สารแคปแทน 50% ดับบลิวพี) พ่นลงไปบนเครื่องปลูกที่มีมอสและตะไคร่ขึ้นปกคลุม ในอัตรา 60 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นเดือนละครั้งในช่วงหน้าฝน จนกว่ามอสและตะไคร่แห้งหลุดลอกออกไป รายละเอียด การกำจัดวัชพืชกล้วยไม้ ปัญหาวัชพืชบนเครื่องปลูกที่หายากำจัดยาก มอสและตะไคร่มากับความชื้นบนเครื่องปลูก

การกำจัดวัชพืช : ปัญหาวัชพืชบนเครื่องปลูกที่หายากำจัดยาก

ปัญหาวัชพืชบนเครื่องปลูกที่หายากำจัดยาก บางครั้งพบการระบาดของวัชพืชบนเครื่องปลูก การใช้สารกำจัดวัชพืชจะต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากสารกำจัดวัชพืชส่วนใหญ่จะออกฤทธิ์เป็นพิษกับกล้วยไม้ได้ด้วย การใช้สารกำจัดวัชพืชบางชนิดจะต้องลดความเข้มข้นของสารลงและจะต้องใช้กับกล้วยไม้ที่แข็งแรงแล้วอายุมากกว่า 1 ปีขึ้นไป และใช้ได้ในกล้วยไม้บางสกุลโดยเฉพาะสกุลหวายเท่านั้น กล้วยไม้สกุลอื่นๆจะต้องระมัดระวังหรือห้ามใช้สารกำจัดวัชพืชโดยเด็ดขาด   ผลิตภัณฑ์แนะนำ เอรายูรอน 80 ชนิดผง  รายละเอียด เอรายูรอน 80 เอสซี ชนิดครีม รายละเอียด อัตราและวิธีใช้ บนฉลากไม่มีคำแนะนำการใช้ หากจำเป็นจะต้องใช้กำจัดวัชพืชจะต้องลดอัตราการใช้ลงเหลือ 3-5 กรัมหรือซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นเมื่อวัชพืชเริ่มงอกมีใบปรากฏให้เห็นหรือวัชพืชสูงไม่เกิน 3 เซนติเมตร จะกำจัดได้ดี ถ้าวัชพืชมีขนาดโตกว่านี้ในอัตราที่แนะนำอาจไม่สามารถกำจัดวัชพืชได้ โดยพ่นลงไปที่เครื่องปลูกปีละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอ การกำจัดวัชพืชกล้วยไม้ ปัญหาวัชพืชบนเครื่องปลูกที่หายากำจัดยาก มอสและตะไคร่มากับความชื้นบนเครื่องปลูก

การบำรุงดูแลกล้วยไม้ : น้ำคือหัวใจของการเพาะปลูกกล้วยไม้

น้ำคือหัวใจของการเพาะปลูกกล้วยไม้ น้ำที่เป็นด่าง น้ำกระด้าง น้ำที่มีเกลือแร่เจือปน น้ำที่มีตะกอนดิน คือสาเหตุที่ทำให้สารกำจัดศัตรูพืชเสื่อมสภาพ การจัดการน้ำสำหรับนำมาใช้ผสมกับสารกำจัดศัตรูกล้วยไม้จึงเป็นสิ่งสำคัญเบื้องต้นจึงควรมีการปรับสภาพน้ำก่อนพ่นยา ผลิตภัณฑ์แนะนำ ไซโฟเวอร์ ธาตุแคลเซี่ยมและโบรอนสูตรสำเร็จรูปจากประเทศอิตาลีในสัดส่วนที่เหมาะสมทางวิชาการ สารมหัศจรรย์สำหรับกล้วยไม้ เสริมสร้างประสิทธิภาพในการกำจัดศัตรูพืชได้อย่างแท้จริง ด้วยคุณสมบัติพิเศษหลายประการ สารช่วยปรับสภาพน้ำ สารที่ช่วยให้เกิดการเข้ากันได้ระหว่างสารกำจัดศัตรูพืชที่นำมาผสมร่วมกัน สารเสริมฤทธิ์ยา สารช่วยในการเปียกใบ สารช่วยในจับติดใบพืช สารช่วยป้องกันกำจัดโรคพืชที่สำคัญบางชนิด เช่นโรคเน่าดำ โรคเน่าเข้าไส้ของกล้วยไม้สามารถช่วยลดการระบาดของโรคได้เป็นอย่างดี สารที่ออกฤทธิ์เป็นปุ๋ยน้ำสูตร 3-17-0 สำหรับใช้เพื่อเสริมสร้างรากและเร่งการออกดอกของกล้วยไม้ ปัญหาการใช้สารกำจัดศัตรูพืชได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ สารเคมีเกษตรส่วนใหญ่จะออกฤทธิ์ได้ดีในสารละลายที่เป็นกรดอ่อนๆและจะเสื่อมฤทธิ์อย่างรวดเร็วเมื่อในสารละลายที่เป็นด่าง ดังนั้นการใช้น้ำที่เป็นด่าง น้ำที่มีเกลือแร่เจือปนหรือมีตะกอนดิน จะทำให้ฤทธิ์ยาเสื่อมสภาพลง ไซโฟเวอร์ช่วยปรับสภาพน้ำให้มีระดับความเป็นกรดอยู่ที่ระดับ pH 4.5-5.5 ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมสำหรับนำไปใช้ผสมกับสารกำจัดศัตรูพืชโดยทั่วไป อัตราการใช้ของไซโฟเวอร์จะขึ้นอยู่กับระดับความเป็นด่างของน้ำ ถ้าน้ำเป็นด่างจัดก็ต้องใช้ในอัตราสูง ถ้าน้ำเป็นด่างอ่อนก็ใช้ในอัตราต่ำ จึงใช้วิธีหยดไซโฟเวอร์ลงไปในน้ำ แล้วดูการเปลี่ยนแปลงของสี ถ้าน้ำเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีชมพูอ่อนๆก็แสดงว่าเหมาะสมสำหรับนำไปใช้ได้แล้ว ถ้าต้องการปรับสภาพน้ำที่มีระดับความเป็นด่างที่ pH 8 ให้มาสู่ระดับน้ำที่ pH 6.5 จะต้องใช้ ไซโฟเวอร์ ในอัตรา 90-100 ซีซีต่อน้ำ 100 ลิตร อัตราและวิธีใช้ ถ้าต้องการผสมด้วยน้ำ 20…

การบำรุงดูแลกล้วยไม้ : สารอาหารกระตุ้นการเจริญเติบโตของกล้วยไม้ที่น่าสนใจ

กล้วยไม้งาม ออกดอกสะพรั่ง ด้วยปุ๋ยเกร็ดคุณภาพสูง การใช้สารอาหารพืชที่จำเป็นต่อการกระตุ้นการเจริญเติบโตของกล้วยไม้ ผลิตภัณฑ์แนะนำ ไซโฟแคล ธาตุแคลเซี่ยมและโบรอนสูตรสำเร็จรูปจากประเทศอิตาลีในสัดส่วนที่เหมาะสมทางวิชาการ แคลเซี่ยม ออกไซด์ ที่สามารถละลายน้ำได้ 15% โบรอน ที่สามารถละลายน้ำได้ 25% จากคุณสมบัติพื้นฐานของธาตุแคลเซี่ยมที่มีต่อพืชโดยทั่วไป มีผลต่อโครงสร้างของผนังเซลล์ของพืชโดยไปเสริมสร้างแพ็คตินและเนื้อเยื่อชั้นกลางของผนังเซลล์ อีกทั้งยังช่วยขยายขนาดของเซลล์พืชอีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่ออ่อนบริเวณปลายยอดและปลายรากและคุณสมบัติพื้นฐานของธาตุโบรอนที่ช่วยควบคุมการเคลื่อนย้ายน้ำตาลภายในพืช   ประโยชน์ ช่วยส่งเสริมให้กล้วยไม้แทงช่อดอกได้อย่างสมบูรณ์แข็งแรง ช่วยให้รากแผ่ขยายมีความสามารถในการดูดน้ำและอาหารได้ดีขึ้น ช่วยให้กล้วยไม้แข็งแรงทนทานและสามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน   ไซโฟแคลมีความจำเป็นอย่างยิ่งในช่วงหน้าหนาวนี้ ในช่วงหน้าหนาวธาตุแคลเซี่ยมจะสูญเสียไปจากการคายน้ำของกล้วยไม้ และมีการเคลื่อนย้ายภายในกล้วยไม้ได้น้อย ทำให้กล้วยไม้มักจะขาดแคลนธาตุแคลเซียมในช่วงหน้าหนาว ทำให้การเจริญเติบโตของรากเป็นไปอย่างจำกัด การสร้างดอกไม่สม่ำเสมอ ความสมบูรณ์ของก้านช่อดอกลดลง   อัตราและวิธีใช้ 10 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร ควรพ่นอย่างน้อย 2 ครั้งห่างกัน 7-10 วัน รายละเอียด อัลก้า สารกระตุ้นการเจริญเติบโตของกล้วยไม้จากประเทศอิตาลี เป็นสารสกัดจากสาหร่ายทะเลที่อุดมไปด้วยสารกระตุ้นทางชีวภาพ ธาตุอาหารและฮอร์โมนพืชอย่างมากมายในสัดส่วนและการทำงานที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของกล้วยไม้ได้เป็นอย่างดี ประโยชน์ ช่วยให้รากงอกแผ่ขยายดูดน้ำและสารอาหารพืชได้มากขึ้น ช่วยให้กล้วยไม้สมบูรณ์ใบเขียวเข้ม ช่วยให้กล้วยไม้โตเร็วแข็งแรงทนทานต่อโรคและแมลงศัตรูกล้วยไม้ ช่วยลดความเครียดให้กับพืชจากผลกระทบของสภาพอากาศที่แปรปรวนโดยเฉพาะในสภาวะอากาศร้อนจัดและหนาวจัดที่ส่งผลกระทบต่อการออกดอกและการเจริญเติบโตของกล้วยไม้ ช่วยกระตุ้นการแทงช่อดอกและพัฒนาการของช่อดอกได้อย่างสมบูรณ์   อัตราและวิธีใช้…