การใช้สารกำจัดวัชพืชในสวนมะม่วง
ผลิตภัณฑ์แนะนำ
ให้ใช้ เอราบาส ในอัตรา 150-200 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
เอราบาส
นับว่าเป็นสารกำจัดวัชพืชที่มีความปลอดภัยในสวนมะม่วง จากคุณสมบัติที่ไม่สามารถดูดซึมเข้าทางรากและมีการเคลื่อนย้ายอยู่ในพืชได้น้อยออกฤทธิ์แบบสัมผัสได้ดีทำให้การตายของวัชพืชจะแห้งตายได้อย่างรวดเร็วและตายนานอีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการกำจัดวัชพืชได้ดีทั้งใบแคบและใบกว้าง (จึงไม่จำเป็นต้องใช้สาร 2,4-D ในแปลงไม้ผลซึ่งมีผลกระทบต่อใบมะม่วงที่มักทำให้เกิดอาการใบม้วนบิดงอ ใบมีขนาดเล็กลง)
การใช้สารปรับสภาพน้ำ ไซโฟเวอร์
สารกำจัดศัตรูพืชส่วนใหญ่จะมีช่วงอายุการออกฤทธิ์ที่มีความเจาะจงเฉพาะตัว การนำไปใช้ผสมกับน้ำที่มีฤทธิ์เป็นด่างหรือน้ำที่มีปริมาณของไบคาร์โบเนท จะทำให้สารกำจัดศัตรูพืชเสื่อมสลายตัวได้ง่ายจนกระทั่งหมดฤทธิ์ไป ทำให้การนำไปใช้ผสมกับสารกำจัดศัตรูพืชได้ผลไม่ดีเท่าที่ควร
ไซโฟเวอร์
ช่วยปรับสภาพน้ำที่เป็นด่างให้กลายมาเป็นกรดที่เหมาะสมสำหรับนำไปใช้ผสมกับสารกำจัดศัตรูพืชโดยทั่วไปได้เป็นอย่างดี
อัตราการใช้ ไซโฟเวอร์
ขึ้นอยู่กับระดับความเป็นด่างของน้ำและปริมาณการเจือปนของสารไบคาร์โบเนทเป็นหลัก ซึ่งอัตราการใช้ที่เหมาะสมให้สังเกตการเปลี่ยนแปลงสีของน้ำ ถ้าสีของน้ำเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงแสดงว่าน้ำได้ถูกปรับจนกระทั่งมีความเป็นกรดที่เหมาะสมสำหรับนำไปผสมกับสารกำจัดศัตรูพืชได้แล้ว
ตัวอย่างเช่น
ถ้าต้องการปรับสภาพน้ำที่มีระดับความเป็นด่างที่ pH 8 ให้มาสู่ระดับน้ำที่ pH 6.5 จะต้องใช้ ไซโฟเวอร์ ในอัตรา 90-100 ซีซีต่อน้ำ 100 ลิตร
ข้อแนะนำสำหรับการใช้ ไซโฟเวอร์ในการปรับสภาพน้ำ
ถ้าต้องการผสมด้วยน้ำ 20 ลิตร ใส่ไซโฟเวอร์ลงไปในน้ำจำนวน 12 ซีซีก่อนจากนั้นค่อยหยดไซโฟเวอร์ดูการเปลี่ยนแปลงของสีน้ำ ซึ่งจะเป็นตัวที่ชี้วัดระดับ pH ดังนี้
ถ้าเป็นสีเหลือง แสดงว่า pH อยู่ที่ระดับ มากกว่าหรือเท่ากับ 6
ถ้าเป็นสีส้ม แสดงว่า pH อยู่ที่ระดับ 5.5-6.0
ถ้าเป็นสีแดง แสดงว่า pH อยู่ที่ระดับ น้อยกว่าหรือเท่ากับ 5.5 ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสม
จากนั้นนำสารกำจัดศัตรูพืชที่ต้องการใช้นำมาผสม
ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะใช้ ไซโฟเวอร์ ที่อัตรา 18-24 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร
สำหรับอัตราการใช้เพื่อเสริมประสิทธิ์ภาพฤทธิ์ยา การใช้เพื่อช่วยให้สารผสมเข้ากันได้เป็นอย่างดี การใช้เพื่อเป็นปุ๋ยน้ำและการใช้เพื่อเป็นสารป้องกันกำจัดโรคพืช
ให้ใช้ในอัตรา 3-5 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร